top of page

สงครามภายนอก เกิดจากสงครามภายใน

เขียนโดย

รองศาสตราจารย์ ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว

นายกสมาคมจิตวิทยาการปรึกษา


วันที่เผยแพร่

20 ตุลาคม 2563

 

ชีวิตนั้นโดยแท้จริงแล้ว คือ สายสัมพันธ์ระหว่างทุกสิ่งที่ดำรงอยู่อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน

สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนมาประกอบเกี่ยวข้องสัมพันธ์เป็นที่มาของชีวิต ชีวิตจึงหมายความถึงองค์รวมที่ดำรงอยู่ได้เพราะทุกอย่างล้วนมีส่วนเกื้อกูลกันและกันโยงใยเป็นสายสัมพันธ์หนึ่งเดียวที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง


ด้วยกระบวนการพิจารณาแบบสืบค้นอันละเมียดละไมของโยนิโสมนสิการ เราจะเห็นว่าชีวิตของเราประกอบด้วยการวิวัฒนาการอันยาวนานที่มองไม่เห็นจุดเริ่มต้น ประวัติศาสตร์ของการเกิดขึ้นของธรรมชาติ การเกิดขึ้นของสรรพสิ่ง การเกิดขึ้นของมนุษยชาติ การสร้างถิ่น การสร้างบ้านสร้างเมือง การต่อสู้ แย่งชิง การปกป้อง การรักษา การทะนุบำรุง การส่งเสริม และการทำลาย และการพิจารณาสืบค้นเข้าไปในใจ จะช่วยให้พบกับธรรมชาติที่สร้างสรรและธรรมชาติที่ทำลายแฝงเร้นล้ำลึกอยู่ภายในใจเราด้วย


ใจที่เข้าถึงหรือเห็นถึงการดำรงอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวของสรรพสิ่ง จะนำให้รู้สึกขอบคุณและกตัญญูต่อสรรพสิ่ง นำให้เกิดความอ่อนน้อมถ่อมตน และรู้สึกชื่นชมยินดีกับทุกสิ่ง และด้วยความเข้าใจว่าชีวิตคือทุกสิ่ง ความรู้สึกถึงตัวตนของตนว่าเป็นสิ่งที่แยกออกมาจะลบเลือนไปทำให้ความเห็นแก่ตัว ความรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ เป็นของตัวจะสูญสลายหายไปเหลือแต่ใจที่สะอาดสะอ้านพาชีวิตให้ดำเนินไปอย่างสันติสุขและอ่อนโยนกับสรรพสิ่ง


แต่สายสัมพันธ์หนึ่งเดียวนั้นมักจะถูกแบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ ชิ้นๆ ด้วยอิทธิพลของการตั้งชื่อกำหนดเพื่อความสะดวกในการสื่อสาร เช่นคำว่า คน สิ่งแวดล้อม สัตว์ ต้นไม้ อากาศ ภูเขา แม่น้ำ ลำธาร ทะเล มหาสมุทร วิถีการปกครอง และแต่ละอย่างก็ถูกแบ่งย่อยลงไปอีก เช่นคนไทยคนจีน คนอินเดีย คนฝรั่ง หรือคนผิวขาว ผิวสี ผิวเหลือง คนกรุง คนบ้านนอก คนกรุงเทพ คนเชียงใหม่ คนเป็นพ่อ คนเป็นแม่ คนเป็นลูก คนเป็นครู คนเป็นลูกศิษย์ สิ่งแวดล้อมก็สามารถแบ่งเป็นต้นไม้ ใบหญ้า อากาศ แม่น้ำ ท้องฟ้าและย่อยแยกออกไปอย่างมากมายหลากหลาย เช่นอย่างนี้ดี อย่างนั้นไม่ดี ดีต้องอย่างนี้ ดีต้องไม่อย่างนั้น การกำหนดต่างๆ เหล่านี้มีมากมายและซ่อนซ้อนกันอยู่ กำหนดที่เกิดขึ้นก็ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ฉันเป็นผู้ชายคนกรุง เรียนที่โรงเรียนกายสิทธิ์ เรียนเก่ง ถนัดภาษา เป็นคนขยัน ชอบสายลมแสงแดด ไม่ชอบการดูถูกเหยียดหยาม เกลียดคนเห็นแก่ตัว ชอบธรรมะ ไม่ฝักใฝ่การเมือง แต่ชอบเสรีนิยม และใจก็จะจมดิ่งฝังแน่นลงไปอยู่ในกำหนดต่างๆ ที่ซับซ้อนนี้ และมันก็จะขังจิตใจและแยกตนเองออกมาจากสายใยสัมพันธ์ มาอยู่ในโลกของตัวกูและของกูและกำหนดการแบ่งแยกแตกแยกให้เกิดขึ้นในอาณาเขตของใจ


ฉันเป็นคนไทย ไม่ชอบฝรั่ง ชอบดอกกุหลาบ ไม่ชอบดอกมะลิ ชอบคนพูดเพราะ รำคาญคนพูดมาก ใจที่มีกำหนดแบ่งแยกเช่นนี้ย่อมสร้างความขัดแย้งต่อสู้กันอยู่ภายในที่กระเพื่อมออกมาเป็นสงครามภายนอกได้ไม่ยากเย็นอะไร


แม้แต่กับตัวเอง การแบ่งแยกก็เกิดขึ้นได้ทำให้เกิดสงครามภายใน

เช่นฉันน่าจะเก่งกว่านี้ ฉันเป็นคนขี้เกียจ ซึ่งไม่ดี ฉันจะต้องเป็นคนดีคือขยัน ฉันควรจะสอบได้ดีกว่านี้หากฉันขยันกว่านี้ ภาวะภายในเช่นนี้ย่อมบั่นทอนความอิ่มเต็มในจิตใจ ทำให้เกิดความไม่พอใจกรุ่นอยู่อย่างลึกเร้น และเป็นคลื่นที่พร้อมจะทะลักทะลายออกมาข้างนอกเมื่อมีการจุดประทุ


ใจที่เกิดสงคราม คือใจที่ดำรงจมอยู่กับความแบ่งแยกของอาณาเขตต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใน

นั่นคือใจที่ถูกจองจำอยู่ในความเชื่อบางอย่างหรือความรู้บางอย่างหรือความชอบบางอย่างจนเกิดการ identify ว่าตนเองคือสิ่งนั้น และสิ่งนั้นคือตัวเอง และสิ่งนั้นก็ถูกยึดไว้หน่วงไว้กลายเป็นอาณาเขตที่จะต้องปกป้อง รักษา และทำให้เกิดการแตกแยก แบ่งแยก แยกส่วนจากส่วนอื่นๆที่ดำรงอยู่อย่างเกื้อกูล เป็นสายใยไร้ตัวตนที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างลี้ลับ


การแบ่งแยกและการจมอยู่หรือยึดอยู่ในอาณาเขตที่แยกนั้นย่อมนำให้เกิดการต่อสู้

เพื่อเอาชนะ เพื่อปกป้อง เพื่อรักษา จึงนำไปสู่สงครามภายนอกที่มาจากภายใน และก่อให้เกิดความเสียหายย่อยยับ ทั้งในระดับจิตใจ ความสัมพันธ์ ทรัพย์สิน ตลอดจนโอกาสของความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าและความเป็นสุขในการอยู่ร่วมกัน


สิ่งที่พึงทำคือการถอนตัวเองออกมาจากการจมอยู่ในกำหนดที่ซับช้อนนั้น ซึ่งโดยแท้จริงแล้วก็คือห้วงแห่งตัวกูของกูนั่นเอง สิ่งที่จะช่วยให้เราถอนตัวออกมาจากอาณาเขตของการแบ่งแยกนั้นได้ คือการสังเกตอย่างชัดเจนซื่อตรงในภาวะนั้น การสังเกตจะช่วยเราคลายจากการยึดมั่นหรือจมหรือ identify ตัวเราเองกับสิ่งนั้นที่ทำให้เราคับแคบมืดมน มาสู่ภาวะห่างคลายหรือ dis-identification จากสิ่งนั้นหรือสิ่งเหล่านั้น และเมื่อเราถอนตัวออกมาได้อย่างบริบูรณ์ เราก็จะได้ลิ้มรสแห่งอิสรภาพและเสรีภาพจากการจองจำที่คับแคบสู่ความกว้างใหญ่ไพศาลของชีวิต


และเมื่อนั้นเองที่สงครามทั้งหลายทั้งปวงก็จะสงบลง เหลือไว้แต่สันติสุขที่จะทำให้เราอิ่มเอมอย่างยิ่งกับการมีชีวิต

 

* ข้อความในบทความนี้ เป็นทัศนะของผู้เขียนมิใช่ของผู้จัดทำหรือสมาคมฯ หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัย โปรดติดต่อเจ้าของบทความโดยตรง

ดู 494 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page